ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

เชื่อมีแรงบีบ! อัยการเห็นควรสั่งฟ้องพระธัมมชโย

เชื่อมีแรงบีบ! อัยการเห็นควรสั่งฟ้องพระธัมมชโย ด้าน “องอาจ” ยืนยัน หลวงพ่ออาพาธอยู่ในวัด ขณะที่คณะศิษย์ยังคาใจปม “ตับแตก
#TV24 (23 พ.ย.59) ความเคลื่อนไหวหลังสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) มีความเห็นควรสั่งฟ้องพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในฐานะผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.ศศิธร โชคประเสริฐ ผู้ต้องหาที่ 5 ในฐานความผิดสบคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร ในคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ในวันนี้นั้น



ในกลุ่มไลน์นักข่าว “News วัดพระธรรมกาย” นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษย์วัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า คณะศิษย์กำลังมีการหารือ และอาจชี้แจงหรือแถลงความชัดเจน ขณะที่มีผู้สื่อข่าวรายหนึ่งแสดงความเห็นว่า
เจ้าอาวาสอาพาธหนักมาเป็น 10 ปี ไม่ได้ออกจากวัด แล้วก่อนหน้านี้มีการออก ใบรับรองแพทย์จากต่างจังหวัดได้อย่างไร และหากอาพาธหนักขนาดนั้น เหตุใดถึงไม่ไปพบแพทย์ พร้อมกับแนะนำให้มอบตัวสู้คดี

นายองอาจ ชี้แจงว่า เป็นสิทธิของผู้ป่วยที่จะเลือกสถานที่ในการรักษา เพราะในวัดก็มีเครื่องมือทางการแพทย์ ส่วนกรณีใบรับรองแพทย์ที่เป็นข่าวนั้น ก็มาจากหมอที่มาตรวจอาการในวัด
“ท่านรักษาอาการของท่านมาอย่างนี้ในวัดมาตลอดครับ เป็นสิทธิของผู้ป่วยที่จะเลือกสถานที่และวิธีการรักษา โดยมีหมอและคณะ พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นตามสมควร ดูแลอยู่เรื่องใบรับรอง เป็นคุณหมอที่มาตรวจอาการในวัด หลวงพ่อไม่ได้ออกไปไหน” นายองอาจกล่าว

ด้านพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย อธิบายการแถลงข่าวของอัยการครั้งนี้ในเฟซบุ๊ก “Psanitwong Wuttiwangso” ว่า แบ่งออกเป็น 2 ประเด็น คือ 1. นายศุภชัย, นางศัณยา, นางทองพิณ มี "คำสั่งฟ้อง" ความผิดฟอกเงิน 2. พระธัมมชโย, ศศิธร เห็น "ควรสั่งฟ้อง" สมคบฟอกเงิน รับของโจร
"เมื่อสอบสวนแล้ว ถ้าไม่พบความผิด อัยการอาจไม่สั่งฟ้อง"
สอดคล้องกับนายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ที่กล่าวว่า หากอัยการได้รับตัวพระธัมมชโยกับ น.ส.ศศิธร อัยการจะต้องใช้ดุลพินิจพิจารณาคำสั่งเห็นควรสั่งฟ้องทั้งสองคน
และทำการสอบสวนก่อน ซึ่งหากมีพยานหลักฐานใหม่ อัยการอาจมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงการสั่งคดีในส่วนสองคนนี้ได้

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของตำรวจและดีเอสไอ มีรายงานว่า อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า
พร้อมจับพระธัมมชโยทันทีที่มีหนังสือจากอัยการสูงสุด ส่วน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล สมาชิกสปท.และ รอง ผบ.ตร. ระบุว่า หากพระธัมมชโยไม่เข้ามอบตัว ตำรวจอาจขอหมายจากศาลเข้าจับกุมตัว หลังส่งหมายจับแต่ไร้การตอบรับ
ศิษย์วัดพระธรรมกายรายหนึ่งเปิดเผยกับทีมข่าวว่า ค่อนข้างแปลกใจกับการแถลงของอัยการในครั้งนี้ เนื่องจากอาจมีความเห็นเร็วกว่ากำหนดที่ได้แจ้งไว้หรือไม่ รวมทั้งเชื่อว่าอาจมีกระแสกดดันบางอย่าง

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมต.ยุติธรรม ก็ออกมาให้ข่าวเชิงกดดัน รวมทั้ง การให้สัมภาษณ์ของ รอง ผบ.ตร.กรณีหมายจับข้อหาบุกรุกป่า จากศาลจังหวัดสีคิ้ว ที่เพิ่งออกมาสดๆร้อนๆ รวมทั้ง ยังแสดงความเป็นห่วงความปลอดภัยของเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หากเข้าสู่กระบวนการในยุคนี้ด้วย

อีกทั้ง ก่อนการ “เห็นควรสั่งฟ้อง” เพียง 1 วัน มีกระแสข่าวจากสื่อบางสำนักว่าพระธัมมชโยหลบหนีไปต่างประเทศ ซึ่งกรณีดังกล่าว นายองอาจ ได้ชี้แจงก่อนหน้านี้แล้วว่า ไม่เป็นความจริง
“ข่าวที่ว่า ไม่จริงครับ

หลวงพ่อท่านยังพักรักษาอาการอยู่ในวัดครับ และที่ผมเคยเรียนครับว่า ท่านไม่มีหนังสือเดินทางหรือวีซ่าใดๆ ทั้งสิ้นครับ ตั้งแต่ท่านอาพาธมา ไม่ได้ออกจากวัดมานานร่วม 10 ปี แล้ว ด้วยอาการอาพาธที่ท่านเป็นอยู่ เดินทางไม่ได้ครับ เสี่ยงเกินไป” นายองอาจกล่าว
ส่วนความเคลื่อนไหวของโลกออนไลน์ขณะนี้ พบการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรฐานการทำงานของดีเอสไอ ทั้งกรณีการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกุล อดีตเจ้าพนักงานที่ดิน จ.พังงา และ ข่าวการสั่งพักงานราชการ 2 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ มีเอี่ยวรับเงินกว่า 40 ล้านคดีสหกรณ์ฯคลองจั่น เป็นจำนวนมาก


นอกจากนี้ศิษย์วัดบางส่วน ได้ตั้งจุดบริการอาหาร 2จุด คือที่เต้นท์บริการ และนำไปให้ประชาชนที่เข้าคิวรอ เพื่อเข้าสักการะฯได้แก่บะหมี่หมูแดงเลิศรส 700 ชาม ,ขนมปัง 3,000 ชิ้น ข้าวผัดกุนเชียงแสนอร่อย 800 กล่อง , ผลไม้กล้วยเล็มมือนาง100 หวี , น้ำดื่มชื่นใจ 3,600 ขวดให้บริการฟรีแก่ประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ท้องสนามหลวงตั้งแต่ช่วงเช้า

ไม่มีความคิดเห็น