ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

อนันต์ อัศวโภคิน เผยหลักคิด “ให้” ก่อน “รับ” ถึงได้รวย

อนันต์ อัศวโภคิน เผยหลักคิด “ให้” ก่อน “รับ” ถึงได้รวย


หาก “รายได้” คือเป้าหมายของการทำธุรกิจ “กำไร” จึงกลายเป็นผลที่ต้องได้รับ แต่จะมีสักกี่คนเลือกมองข้ามสิ่งนี้ไปก่อน “อนันต์ อัศวโภคิน” คือหนึ่งในผู้คิดต่าง เขาเลือก “ให้ ก่อน รับ” และคำตอบของความคิดแบบนี้ นำมาซึ่งความ “รวย”
ทุกครั้งที่ “อนันต์ อัศวโภคิน” บอสใหญ่ของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ และธุรกิจในเครือรุกจะทำธุรกิจอะไรเป็นน่าจับตามองทั้งสิ้น เหมือนอย่างสมัยก่อนที่เขาปล่อยแนวคิดบ้านพร้อมอยู่ออกมา ใครๆ ในวงการอสังหาริมทรัพย์ต่างงงกันว่าเขาจะมาไม้ไหน เพราะนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สมัยก่อนเขาจะขายกระดาษเพื่อเอาเงินสดใส่กระเป๋าก่อน แล้วถึงจะเริ่มก่อสร้างโครงการ แต่เขากลับไม่คิดเช่นนั้น เพราะเขาเชื่อว่าคนที่ซื้อบ้านต้องอยากเห็นบ้าน อยากจับต้องวัสดุ และอยากเห็นของจริงทั้งหมด ก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้าน
เพราะบ้านราคาไม่ใช่ถูก
แถมยังต้องอยู่กันทั้งชีวิต
เขาจึงตอบสนองลูกบ้านด้วยการให้ผู้ซื้อ เพียงแค่ยกกระเป๋าเดินทางเข้ามาก็สามารถอยู่ได้เลย จนกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ของลูกค้าเมื่อหลายสิบปีก่อน


 กระทั่งไม่นานผ่านมาเขามีความคิดในการทำธุรกิจค้าปลีกอสังหาริมทรัพย์ในเทอร์มินอล 21 อโศก ซึ่งหลักคิดของเขาบอกว่าที่นี่จะไม่มีห้างสรรพสินค้า แต่จะมีร้านค้าของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อย (เอสเอ็มอี) กว่า 700 ราย ที่พร้อมจะเปิดให้บริการ เพราะเขาเชื่อว่าร้านค้าแบรนด์เนม สามารถไปหาซื้อจากห้างสรรพสินค้าไหนก็ได้ในมหานครกรุงเทพ แต่ที่นี่จะไม่เป็นอย่างนั้น เพราะสินค้าของที่นี่จะถูกกว่าร้านค้าชั้นนำเหล่านั้นมาก
สำคัญไปกว่านั้น “คุณอนันต์” ใช้กลยุทธ์ “แท็งก์น้ำ” ด้วยการเปิดฟู้ดคอร์ตบริเวณชั้นบน โดยจะมีร้านอาหารดังต่างๆมากมายมาอยู่ที่ชั้นนี้ เพราะราคาถูกมากๆ เพราะ “คุณอนันต์” ตั้งใจให้พนักงานออฟฟิศ และประชาชนทั่วไปรับประทานอาหารเลิศรสในราคาถูก กล่าวกันว่าที่เขาทำเช่นนั้นได้เพราะเขาไม่คิดค่าเช่าในช่วงแรก เขายอมขาดทุน 3-5 ปี
 เพื่อให้ผู้บริโภคมารับประทานอาหารมากที่สุด จากนั้นเมื่อมีคนมารับประทานอาหารมากๆ เขาจะปล่อยให้คนค่อยๆ ไหลลงมาในแต่ละชั้น ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ มากมาย คล้ายๆ กับเป็นการปล่อยน้ำช้าๆ ออกจาก
แท็งก์
คุณอนันต์” บอกว่าฟู้ดคอร์ตในปัจจุบันมีคนมารับประทานอาหารตลอดทั้งวันประมาณ 30,000 คน ที่ไม่เพียงจะทำให้ร้านค้าทุกร้านขายอาหารได้อย่างดี หากยังช่วยให้พวกเขามีรายได้เป็นกอบเป็นกำด้วย ด้วยหลักคิดเช่นนี้เอง เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคมผ่านมา “คุณอนันต์” จึงหันไปเปิดเทอร์มินอล 21 ที่โคราช และที่อื่นๆ ต่อไปที่จะเกิดขึ้นในปี 2560
“ผมอาจไม่ใช่ศูนย์การค้าใหญ่ที่สุด แต่เรามองซัพพลายเออร์เป็นคู่ค้า คู่ค้าอยู่ได้ เราถึงจะอยู่ได้ และเป้าหมายของผมไม่ใช่แค่เทอร์มินอล 21 อโศก หรือโคราชเท่านั้น เรามีแผนอีกเยอะมากในทุกทำเลที่มีโอกาส เพราะฉะนั้น เราจะต้องโตไปด้วยกัน ผมอาจใหม่ในธุรกิจนี้ พวกคู่ค้าเอสเอ็มอีก็ใหม่ ดังนั้น เราต้องมาร่วมมือกัน”


“ดังนั้น ถ้าซัพพลายเออร์มีปัญหาอะไร จุดไหนบอกพวกเรา เราพร้อมช่วยเหลือทุกอย่าง การตกแต่งร้านค้าดิสเพลย์ เรามีทีมแลนด์แอนด์เฮ้าส์คอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำ มีปัญหาเรื่องการเงิน เราก็มีแอลเอชแบงก์ซัพพอร์ตในทุกๆ อย่าง”
“ส่วนหน้าที่เติมคน เติมทราฟฟิก ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้คนเข้ามาเดินในศูนย์การค้าอย่างต่อเนื่องและตลอดทั้งวัน เพราะการทำธุรกิจศูนย์การค้าไม่จำเป็นต้องได้กำไรตั้งแต่วันแรก ผมรอได้ ผมยอมขาดทุน 3-5 ปีแรก เพื่อให้ศูนย์การค้าเดินต่อไปได้ และจะไม่ยอมให้ศูนย์การค้าทุกแห่งที่ผมเปิดล้มเหลว”
ทั้งนั้นเพราะ “คุณอนันต์” มองว่าเมื่อเขาเข้ามาแล้ว เขาจะทุ่มเททุกอย่าง และพร้อมทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ทุกคนเติบโตไปพร้อมกัน


อีกเหตุผลหนึ่ง “คุณอนันต์” เชื่อว่าคอนเซ็ปต์ของเทอร์มินอล 21 โคราช จะสร้างความแตกต่างให้กับคนเมืองย่าโม เพราะเขาใช้คอนเซ็ปต์ “มาร์เก็ตสตรีต” ซึ่งเป็นถนนของย่านร้านค้าดังๆ ของเมืองโคราช และที่อื่นๆ ขณะเดียวกัน ก็มีหอคอยชมเมืองสูงเท่าตึก 24 ชั้น ตั้งอยู่กลางเมืองโคราช
มีบันไดเลื่อนยาว 36 เมตร กลางเอเทรียม ทั้งยังเป็นบันไดเลื่อนในศูนย์การค้าที่ยาวที่สุดในเมืองไทย นอกจากนั้น ยังมีหอไอเฟลจำลองสูง 72 ฟุต เท่ากับตึก 5 ชั้น
ที่สำคัญ “คุณอนันต์” ยังติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตไวไฟ ความเร็วสูงสุด 200 MB เพื่อเปิดใช้ฟรีทุกจุดทั่วศูนย์การค้า ไม่เว้นแม้แต่ในห้องน้ำ ซึ่งน่าจะเป็นแม่เหล็กอีกอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้กลุ่มลูกค้าวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่แห่มาใช้บริการที่นี่
สิ่งสำคัญอีกอย่าง “คุณอนันต์” จะไม่เก็บค่าเช่าพื้นที่ของเดือนแรกด้วย ตรงนี้น่าจะเป็นแรงจูงใจอีกอย่าง ที่จะทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อย (เอสเอ็มอี) เข้ามาเช่าพื้นที่ร้านค้าอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เพราะอย่างที่บอกหลักคิดของ “คุณอนันต์” ใช้วิธี “ให้” ก่อน “รับ” เพราะเมื่อคิดว่าจะไม่เอากำไรตั้งแต่แรก เขาจึงปล่อยให้ร้านค้าทำมาหากินก่อน จนกระทั่งเมื่อธุรกิจของเขาเริ่มอยู่ตัว เขาถึงจะเก็บค่าเช่า นั่นหมายความว่าผู้ประกอบการทุกรายก็จะยืนอยู่บนขาของตัวเองได้ในระดับหนึ่งแล้ว ก่อนที่จะปล่อยให้เป็นเกมรับของธุรกิจต่อไป
บนหลักการของความคิดเช่นนี้เอง จึงทำให้เขาเชื่อว่าถ้าเขานำหลักคิดนี้ไปใช้ในทำเลพัทยา, ขอนแก่น, เชียงใหม่, ภูเก็ต และอีกหลายสาขาในมหานครกรุงเทพ ก็เชื่อแน่ว่าหลักคิดเช่นนี้จะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน
เพราะอย่าลืมว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ระหว่างการเติบโตของร้านค้า โดยการพูดปากต่อปาก นับเป็นกลยุทธ์ชั้นดี ที่ทำให้ลูกค้าต่างบอกต่อ จนทำให้ความสำเร็จเกิดขึ้นโดยเร็วกับเทอร์มินอล 21 อโศก
ว่ากันว่าความสำเร็จเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับสาขาโคราช และที่อื่นๆ ตามมาอีกด้วย ซึ่งไม่ธรรมดาเลย?

ไม่มีความคิดเห็น