ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

สะเทือนใจ!...วัดพระธรรมกายมาถึงจุดนี้ได้ยังไง..ถูกสังคมกดดัน

สะเทือนใจ!...วัดพระธรรมกายมาถึงจุดนี้ได้ยังไง..ถูกสังคมกดดัน

ตอบคำถามสื่อมวลชนทุกประเด็น 
1. อาการป่วยจริงหรือไม่ 

2. หนีออกนอกประเทศ 

3. ขอลี้ภัยอเมริกา 

4. หนังสือเดินทางและวีซ่า 

5. ปลอมเอกสารเท็จ 

6. แพทย์ที่ออกใบรับรอง

7. ทำไมเปลี่ยนมาใช้แพทย์เยอรมันแทนแพทย์ไทย

8. ขอนัดหมายให้ DSI มาพบในวันที่ 25 พ.ค. โดยไม่มีมวลชนขัดขวาง

9. ขอแสดงภาพอาพาธของหลวงพ่อทั้งขาและหน้าได้หรือไม่






แถลงการณ์จุดยืนวัดพระธรรมกายกรณีหมายจับของดีเอสไอ
ตามที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ขอออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี วัดพระธรรมกายขอ เรียนชี้แจงดังนี้

1. พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) เคารพกระบวนการยุติธรรมและยินดีปฏิบัติตามขั้นตอนของ กฎหมาย
2. ขณะนี้พระเทพญาณมหามุนีท่านอาพาธต้องนอนพักฟื้นอยู่ที่วัดพระธรรมกาย ไม่ได้หลบหนีไปที่ใดทั้งสิ้น โดย อายุและภาวะสุขภาพของท่านซึ่งอ่อนแอมากก็ไม่สามารถเดินทางไกลได้ ท่านจึงไม่เคยเดินทางออกจากวัดมาเป็น เวลา 8 ปีแล้ว ไม่ใช่มาแกล้งป่วยในช่วงนี้ ถ้าไม่ใช่อาพาธมากจริงๆคงไม่มี ใครไม่เดินทางออกนอกวัดเลยถึง 8 ปีอย่างนี้ ที่มีบางท่านปล่อยข่าวว่าท่านจะหลบหนีไปต่างประเทศนั้นจึงไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง เพราะถ้าฝืนเดินทางไปอย่าง นั้น ท่านก็คงมรณภาพกลางทาง ไม่มีประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น

3. อาการหลอดเลือดดาอุดตันทั้งสายหลักและสายรองที่ขาซ้ายของท่านเป็นมาก จนกระทั่งเมื่อลุกขึ้นนั่งเพียง เวลาสั้นๆ 3-4 นาที ขาก็จะบวมมากขึ้นตามลาดับและปวดมาก เพราะเมื่ออยู่ในท่านั่งหลอดเลือดดาบริเวณขาหนีบ ก็จะถูกกดทับเพิ่มขึ้นไปอีก ทำให้เลือดไหลกลับสู่หัวใจได้ยากขึ้น ต้องนอนยกขาสูงกว่าระดับหัวใจเพื่อ ประคับประคองอาการ ขนาดเส้นรอบวงของโคนขาซ้าย = 86 ซม. โคนขาขวา = 46 ซม. ใหญ่กว่ากันเกือบ 2 เท่า

4. วัดพระธรรมกายไม่มีนโยบายจะใช้พลังมวลชนมาต่อต้านกระบวนการทางกฎหมาย ดังจะเห็นได้จากขณะที่มี การออกหมายจับ มีผู้นำอุบาสิกาแก้วจานวน 50,000 กว่าคนมาปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดพระธรรมกาย ทุกคนก็สวดมนต์ นั่งสมาธิตามปกติ เมื่อเสร็จงานวันวิสาขบูชา ต่างก็เดินทางกลับภูมิลำเนาตามกาหนดการ

5. เพื่อให้กระบวนการทางกฎหมายสามารถดำเนินไปได้ด้วยความเรียบร้อย พระเทพญาณมหามุนีจะได้มี หนังสือแจ้งไปทางราชการว่า ท่านได้รับทราบเรื่องหมายจับแล้ว และขณะนี้ท่านพักรักษาตัวอยู่ที่วัดพระธรรมกาย จึงแจ้งมายังเจ้าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษไดเ้ดินทางมาแจ้งข้อกล่าวหาได้ในวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2559โดยไม่ต้อง รอถึงเส้นตายวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ.2559 ตามที่ดีเอสไอได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้ ทางวัดจะอำนวยความสะดวกให้ อย่างเต็มที่ ทั้งพนักงานสอบสวน อัยการที่ปรึกษา และคณะสื่อมวลชนที่จะมาทำข่าว โดยไม่มีมวลชนมาขัดขวางใดๆ ทั้งสิ้น

6. เมื่อพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว กระบวนการยุติธรรมก็จะได้ดำเนินไป ตามลำดับอีกหลายขั้นตอน ทั้งดีเอสไอ อัยการ ศาล ซึ่งพระเทพญาณมหามุนีมั่น ใจในความบริสุทธิ์ของท่านว่าจะได้รับ ความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรมในที่สุด

7. การร่วมมือกันแก้ไขสถานการณ์ให้กระบวนการตามกฎหมายสามารถดำเนินไปได้ด้วยความเรียบร้อยเช่นนี้ เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม และเป็นผลดีต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองตามนโยบายของรัฐบาลมากที่สุด ดีกว่าการที่ต่างฝ่ายต่างถือทิฐิดึงดัน จนกระทั่งถึงกำหนดวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 แล้ว เจ้าหน้าที่นำกำลัง จำนวนมากพร้อมรถหุ้มเกราะบุกมาตรวจค้นจับตัวท่าน ซึ่งศิษยานุศิษย์จำนวนมากก็ย่อมเป็นห่วงและเดินทางมา รวมตัวกันที่วัด หากมีมือที่สามสอดแทรกเข้ามาก็อาจทำให้เหตุการณ์บานปลายได้ เสียหายต่อภาพลักษณ์ของ รัฐบาลและประเทศชาติไปทั่วโลก
จึงเจริญพรมาเพื่อทราบถึงจุดยืนและท่าทีของพระเทพญาณมหามุนีและวัดพระธรรมกายโดยทั่วกัน
พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวโส 
ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย
22 พฤษภาคม 2559
ดูเอานะ ออกหมายจับกับ พระวัย 72 ปี
ที่กำลังป่วย มันยุติธรรมแล้วหรือ ???

สะเทือนใจ !...นี่วัดพระธรรมกาย ถูกสังคมกดดันจนมาถึงจุดที่ต้องถ่ายทอดสด
อาการป่วยของหลวงพ่อที่เป็นพระผู้เฒ่าอายุ 72 ปี นอนอาพาธในห้องปลอดเชื้อ เพื่อให้สื่อมวลชน และสาธารณชนพิสูจน์ความจริงว่าท่านป่วยจริง และไม่ได้หลบหนี ด้วยสายตาตัวเองแล้วเหรอนี่

ทุกคนลืมไปหรือเปล่าว่า ท่านยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา ท่านยังไม่ใช่จำเลย ท่านไม่ใช่ผู้ต้องหา และท่านไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย อย่าใช้อำนาจรัฐ อำนาจสื่อ ทรมานพระอาพาธที่ไร้ทางสู้

และกำลังนอนป่วยให้ทุกข์ทรมานมากไปกว่านี้เลย ลำพังแค่การต่อสู้กับอาการเจ็บป่วย 

ท่านก็ทุกข์ทรมานมากพอแล้ว อย่ากลั่นแกล้งท่านมากไปกว่านี้เลย
คุณแข็งแรงกว่า หนุ่มกว่า ก็แค่เดินทางมาพบท่าน มาแจ้งหมายจับกับท่านที่วัดเท่านั้นเอง

2 ความคิดเห็น

  1. หลวงพ่อท่านไม่กลัวการพิสูจน์หลวงพ่อกลัวการไม่มาพิสูจน์หลวงพ่อไม่กลัวการต่อสู้คดี
    แต่หลวงพ่อน่าจะกลัวกระบวนการก่อนถึงมือศาลมากกว่านะ
    หัวใจอันมีมหากรุณาของหลวงพ่อธัมมชโยนั้นยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณท่านเมตตามหาศาลไม่ถือโทษโกรธเคืองใครทั้งนั้น หลวงพ่อไม่เคยขออะไรใคร นอกจากขอให้ลูกๆ รวยเร็วๆ และรักษาวัดรักษาพระพุทธศาสนา กับภาครัฐหลวงพ่อก็ไม่เคยขออะไร นอกจากขอให้ dsi ช่วยเข้ามาแจ้งข้อหากับท่านในวัด เพราะท่านไปไม่ไหวจริงๆ ขอแค่นี้ให้ได้ไหมคะ

    ตอบลบ
  2. หลวงพ่อท่านไม่กลัวการพิสูจน์หลวงพ่อกลัวการไม่มาพิสูจน์หลวงพ่อไม่กลัวการต่อสู้คดี
    แต่หลวงพ่อน่าจะกลัวกระบวนการก่อนถึงมือศาลมากกว่านะ
    หัวใจอันมีมหากรุณาของหลวงพ่อธัมมชโยนั้นยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณท่านเมตตามหาศาลไม่ถือโทษโกรธเคืองใครทั้งนั้น หลวงพ่อไม่เคยขออะไรใคร นอกจากขอให้ลูกๆ รวยเร็วๆ และรักษาวัดรักษาพระพุทธศาสนา กับภาครัฐหลวงพ่อก็ไม่เคยขออะไร นอกจากขอให้ dsi ช่วยเข้ามาแจ้งข้อหากับท่านในวัด เพราะท่านไปไม่ไหวจริงๆ ขอแค่นี้ให้ได้ไหมคะ

    ตอบลบ