ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

ถ้าไม่รู้ รับไว้ ก็ไม่ผิด


รถของสมเด็จวัดปากน้ำ คุณคิดว่าท่านจะรู้ไหมว่า รถที่มาถวายท่านมีอะไหล่บางชิ้นไม่เสียภาษี โดยใช้เอกสารปลอม 
อย่าว่าแต่ท่านเลย มีใครซื้อรถแล้วรู้บ้าง ว่าอะไหล่ทุกชิ้นไม่มีปัญหาเรื่องภาษีแล้วใช้เอกสารปลอม
แล้วนี่ท่านอายุ 90 กว่า แถมรับถวายมา คิดว่าจะรู้มั้ยครับ เอาแค่ว่า คิดว่าจะท่านจะสนใจมั้ยครับจะดีกว่า
ท่านก็รู้แค่ว่า มีที่ว่างอยู่ในวัด เลยทำพิพิธภัณฑ์ ใครเอาอะไรที่น่าสนใจก็เอามาวางตั้งๆไว้ ให้คนได้ดูฟรีๆ กลายเป็นข้อหาพระอยากสะสมของซะงั้น คือมองโลกแง่ลบไปป่าวครับ 

ถ้ารู้อัธยาศัยท่าน จะรู้ว่าท่านน่ะเมตตามากกกกกกก แล้วที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ก็เพราะความเมตตานั่นแหละ แล้วคนก็รักท่านมาก เอาโน่นนั่นนี่มาถวาย กลายเป็นยัดข้อหามาให้เฉยเลย แล้วเรื่องที่มีคนบอกว่า การรับนั้นพระต้องถามนะ ว่าได้มายังไง ซักไซ้ไปเลย ไม่งั้นเอาระเบิดมาให้ก็ต้องรับเหรอ

พระเลือกรับได้ครับ ไม่ต้องรับทุกอย่าง แต่ประเด็นที่ว่า การซักถามต่างหาก ดูที่พระพุทธเจ้าเลยครับ ว่ายังไง ในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าท่านก็รับมา โดยที่ไม่ได้ไปซักไซ้ไล่เลียงถามเลยนะครับ ว่าได้มาจากไหน มายังไง เนื้อที่ไหน ใครฆ่า ฆ่าเพื่อใคร แค่ดูว่า ไม่ใช่เนื้อต้องห้าม ผู้ให้เต็มใจถวาย เท่านั้นก็พอแล้วครับ

สรุปคือ การรับของโดยที่ไม่รู้ที่มา ถ้าในทางพระธรรมวินัย ถือว่าไม่ผิดเลยนะครับ ซึ่งน่าจะรวมถึงคดีรับของโจร ที่นิครนถ์กำลังพยายามยัดเยียดให้หลวงพ่อธัมมชโยด้วยนะครับ



อ้างอิง เนื้อความพุทธพจน์ พาโลวาทชาดก http://goo.gl/y1n1aK  เนื้อความ อรรถกถา พาโลวาทชาดก http://goo.gl/DUS94H


ลองค้นในชาดก เจอเรื่องหนึ่งน่าสนใจครับ เกี่ยวกับ การยัดข้อหาใส่ร้าย ด้วยการถวายของคือเนื้อแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วหาเรื่องใส่ร้ายท่านว่า ทรงรับเนื้อที่ฆ่ามาเฉพาะเจาะจงทั้งที่รู้ 
(คือรู้นะว่าสัตว์นั้นตายลงเพราะท่าน ถ้าในทางศีลพระแล้วถือว่าห้ามฉันครับ)
ลองมาดูนะครับว่า ท่านจะว่าอย่างไร และผิดหรือไม่
หมายเหตุศัพท์
นิครนถ์ คือนักบวชนอกพุทธศาสนาพวกหนึ่ง
กุฎุมพี (กระฎุมพี) คือ คนมั่งมี
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๙
ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑
๖. พาโลวาทชาดก
ว่าด้วยคนมีปัญญาบริโภค
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา เสด็จเข้าไปอาศัยกรุงเวสาลี ทรงปรารภสีหเสนาบดี ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า หนฺตฺวา ฆตฺวา วธิตฺวา จ ดังนี้.
ความย่อมีอยู่ว่า สีหเสนาบดีนั้นถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งแล้วนิมนต์ไปถวายภัตตาหารปรุงด้วยเนื้อ. พวกนิครนถ์ฟังข่าวแล้วไม่พอใจ ใคร่จะเบียดเบียนพระตถาคตเจ้า จึงกล่าวใส่ไคล้ว่า พระสมณโคดมเสวยเนื้อที่เขาอุทิศถวายทั้งที่รู้อยู่.
ภิกษุทั้งหลายสนทนากันในโรงธรรมว่า ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย นิครนถนาฏบุตรกับพวกบริษัทเที่ยวใส่ไคล้ว่า พระสมณโคดมเสวยเนื้อที่เขาอุทิศถวายทั้งที่รู้อยู่.
พระศาสดาสดับเรื่องนั้นแล้วตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นิครนถนาฏบุตรนินทาเราว่าบริโภคเนื้อที่เขาอุทิศถวายแต่ในบัดนี้เท่านั้นก็หามิได้ แม้ในกาลก่อนก็ได้ติเตียนแล้วเหมือนกัน ทรงนำเรื่องอดีตมาตรัสเล่า.
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ ครั้นเจริญวัยแล้ว ออกบรรพชาเป็นฤๅษี มาจากป่าหิมพานต์เพื่อต้องการเสพรสเปรี้ยวเค็มในกรุงพาราณสี.
รุ่งขึ้นจึงเที่ยวภิกษาจารไปในพระนคร ครั้งนั้น กุฎุมพีผู้หนึ่งคิดว่า เราจักแกล้งดาบสให้ลำบาก จึงนิมนต์ให้เข้าไปสู่เรือน นิมนต์ให้นั่งบนอาสนะที่จัดปูไว้แล้ว อังคาสด้วยปลาและเนื้อ ครั้นเสร็จภัตตกิจแล้วนั่ง ณ ส่วนข้างหนึ่ง กล่าวว่า เนื้อนี้ข้าพเจ้าฆ่าสัตว์ปรุงเป็นอาหารเฉพาะท่านโดยตรง ขออกุศลนี้อย่าได้มีแก่ข้าพเจ้าเลย จงตกเป็นของท่านเถิด
แล้วกล่าวคาถาที่ ๑ ว่า :-
บุคคลผู้ไม่สำรวมประหารสัตว์ เบียดเบียนและฆ่าสัตว์ให้ทานแก่สมณะใด สมณะนั้นบริโภคภัตรเช่นนี้ ย่อมเข้าไปติดบาปด้วย.
พระโพธิสัตว์ฟังแล้ว จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :-
ถ้าสมณะผู้มีปัญญาแม้บริโภคทานที่บุคคล ผู้ไม่สำรวม ฆ่าบุตรและภรรยาถวาย ก็ไม่เข้าไปติดบาปเลย.
ในบทเหล่านั้น บทว่า ภุญฺชมาโนปิ สปฺปญฺโญ ความว่า เนื้อของผู้อื่นที่บุคคลผู้ทุศีลแม้ฆ่าบุตรภรรยาให้แล้ว ยกไว้เถิด ท่านผู้มีปัญญาผู้ถึงพร้อมด้วยคุณ มีขันติและเมตตาเป็นต้น แม้บริโภคเนื้อนั้น ย่อมไม่แปดเปื้อนด้วยบาป.
พระโพธิสัตว์แสดงธรรมแก่กุฎุมพีอย่างนั้นแล้ว ลุกจากอาสนะหลีกไป.
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดก.
นิครนถนาฏบุตรได้เป็น กุฎุมพี
ส่วนดาบส คือ เราตถาคต นี้แล.
......................
ดูสิครับ ขนาดพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังถูกใส่ร้ายเลย คือมีการพยายามจะเอาผิดท่านให้ได้
แต่ลองคิดดูนะครับ ถ้านิครนถ์ มีอำนาจในทางการเมือง และคุมสื่ออยู่ในมือ จะเกิดอะไรขึ้น
แล้วถ้าเกิดในสมัยนี้ ที่ไม่ใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเพียงพระ ที่ไม่ได้สามารถแสดงฤทธิ์ได้เหมือนพระองค์ล่ะ  คงถูกปู้ยี่ปู้ยำ ถูกป้ายมลทินฝ่ายเดียว เป็นที่ครหาแน่นอน

Cr: น้องแสนดี เฟสบุ๊ค https://goo.gl/URPhQ1 Line http://goo.gl/aQh3MC

ไม่มีความคิดเห็น