ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

องอาจ ธรรมนิทาโฆษกศิษย์วัดพระธรรมกาย ตอบข้อคลางแคลงสงสัย พระพุทธอิสระ


ในการแถลงข่าวที่ผ่านมา
1. มีแต่เพียงการ “ตั้งคำถาม” และนำเสนอความจริงที่เกิดขึ้นต่อสื่อมวลชน
2. เป็นการพูดโดยหลักการว่าหน่วยงานราชการจะต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส
เพราะหน่วยงานราชการจัดตั้งขึ้นโดยฉันทานุมัติของประชาชน ดำเนินการด้วยภาษีอากรของประชาชน
มีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชน การดำเนินงานจึงต้องระมัดระวังไม่ให้สังคม เกิดข้อคลางแคลงสงสัยว่าเป็นการทำงานแบบ 2 มาตรฐาน หรือมีใบสั่ง เพราะจะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือได้
โดยไม่มีข้อความใดๆ ยืนยันว่าDSI หรือหน่วยงานของรัฐใด กระทำความผิดต่อกฎหมายอย่างไรแต่อย่างใด

อ้างอิงข้อมูล ข่าวบุญใจสว่าง 
วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2559




ตามที่มีข่าวว่าทาง "ดีเอสไอ" ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับกระผม "นายองอาจ ธรรมนิทา" ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และ "พระสุวิทย์ วัดอ้อน้อย" ได้ไปแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทกับกระผมที่ "สภ.คลองหลวง" นั้น กระผมขอเรียนชี้แจงดังนี้

1. กระผมขอปฏิเสธว่าไม่ได้มีเจตนาหมิ่นประมาททั้งดีเอสไอและพระสุวิทย์ แต่ประการใด

2. ในการแถลงข่าวที่ผ่านมามีแต่เพียงการ “ตั้งคำถาม?” และนำเสนอความจริงที่เกิดขึ้นต่อสื่อมวลชน  เป็นการพูดโดยหลักการว่าหน่วยงานราชการจะต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส เพราะหน่วยงานราชการจัดตั้งขึ้นโดยฉันทานุมัติของประชาชน ดำเนินการด้วยภาษีอากรของประชาชน มีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชน การดำเนินงานจึงต้องระมัดระวังไม่ให้สังคมเกิดข้อคลางแคลงสงสัยว่าเป็นการทำงานแบบ 2 มาตรฐาน หรือมีใบสั่ง เพราะจะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือได้ โดยไม่มีข้อความใดๆ ยืนยันว่า "ดีเอสไอ" หรือหน่วยงานของรัฐใด กระทำความผิดต่อกฎหมายอย่างไรแต่อย่างใด

3. "ดีเอสไอ" เป็นหน่วยงานระดับกรม มีบุคลากรนับพันคนที่เป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย มีอาวุธ และมีงบประมาณปีละหลายพันล้านบาท เมื่อดีเอสไอตั้งตัวเป็นคู่กรณีแจ้งความกล่าวโทษใคร คนๆ นั้นย่อมต้องกลัว  เพราะเหมือนสู้อยู่กับยักษ์ใหญ่ มีกระบอง มีอำนาจ มีเงินมหาศาล ... แต่กระผมแม้เป็นเพียงเด็กหนุ่ม ไม่มีอำนาจราชศักดิ์ใดๆ แต่ก็เชื่อมั่นในความถูกต้องบริสุทธิ์ใจของตน และพร้อมจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรม

4. แทนที่จะค้าความตั้งตนเป็นคู่กรณีกับประชาชน ซึ่งอาจทำให้คนหวาดกลัวไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ "ดีเอสไอ" เกรงว่าภัยจะมาถึงตัว ถ้า "ดีเอสไอ" ใช้โอกาสนี้รับฟังความเห็นของประชาชน เพื่อพิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สมบูรณ์ขึ้น จนเป็นที่ยอมรับของประชาชน ย่อมจะเป็นแนวทางที่ถูกต้องสร้างสรรค์ สมเป็นหน่วยราชการที่รับใช้ประชาชนมิใช่หรือ?

5. ข้อกล่าวหาของ "พระสุวิทย์ วัดอ้อน้อย" มีมากมายหลายประเด็นที่น่าแปลกใจ อาทิ การตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ที่เดือดร้อนกลับถูกกล่าวโทษว่าเป็นความผิด คงต้องให้ฝ่ายกฎหมายดูรายละเอียดก่อน แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่า "พระสุวิทย์ วัดอ้อน้อย" มีใจตรงกับดีเอสไอ แจ้งความต่อกระผมในวันเดียวกันอย่างน่าแปลกใจ

6. ในวันพรุ่งนี้ (28 มิ.ย. 59) เวลา 14.00 น. "คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย" จะได้ไปสอบถามเร่งรัดการดำเนินคดีข้อหากบฏของ "พระสุวิทย์ วัดอ้อน้อย" และ "นายไพบูลย์ นิติตะวัน" ที่ "กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)" ต่อไป

--------------------

 นายองอาจ  ธรรมนิทา
โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย

ไม่มีความคิดเห็น